“No one ever gets tired of loving. But everyone gets tired of waiting, assuming, hearing lies, and hurting”
ไม่มีใครเหนื่อยเพราะความรักหรอก แต่ทุกคนเหนื่อยจากการรอ การคิดไปเอง การฟังคำโกหก และการถูกทำร้าย
– Megan Fox
เชื่อไหมว่าในทุกๆวัน จะมีคนที่เสียใจ ทุกข์ และรู้สึกเหนื่อยกับ”ความรัก” เพิ่มขึ้นในทุกๆวัน บ้างเป็นแล้วก็เข็ดหลาบไม่อยากแตะต้องความรักอีก แต่สำหรับบางคน ความรักเหมือนขนมหวานแสนอร่อยที่เห็นทีไรอดใจไม่ไหว รู้ทั้งรู้ว่ามันทำให้อ้วน เป็นโรค แต่ก็อยากจะลิ้มรสความร่อยของมัน เรื่องโทษ ช่างมันเถอะ และคนส่วนใหญ่ที่ผิดหวังเรื่องความรักก็ยังคงมีทัศนคติ และมุมมองเกี่ยวกับความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง เปรียบเสมือนยังคงใช้กระจกบานเดิมที่พร่ามัวส่องตัวเองอยู่ทุกๆวัน จึงไม่แปลกที่ความผิดหวังจากความรักแบบเก่าๆจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะมองไม่เห็นและไม่ยอมรับความเป็นจริงเกี่ยวกับความรัก แต่กลับอ้างสาเหตุอื่นๆมาเป็นจำเลยเป็นต้นเหตุขอความผิดหวังในความรักอยู่ร่ำไป แล้วก็เที่ยวบอกใครต่อใครว่า มีความรักแล้วเหนื่อยจัง ซึ่งเรื่องนี้ Megan Fox นักแสดงหญิงและนางแบบชาวอเมริกัน ตอกย้ำเรื่องความรักจากประสบการณ์ที่เป็นว่า “ไม่มีใครเหนื่อยเพราะความรักหรอก แต่ทุกคนเหนื่อยจากการรอ การคิดไปเอง การฟังคำโกหก และการถูกทำร้าย”
อืมมใช่ๆ ! หลายๆคนที่เคยมีประสบการณ์ที่ผิดหวังจากความรัก คงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล เพราะเมื่อมานั่งคิดกันจริงๆ ด้วยสติที่แจ่มชัด ไม่ถูกอารมณ์แห่งความรักครอบงำแล้ว ก็จะรู้ว่าความรักไม่ได้ทำให้เราเหนื่อย แต่เราเองที่ไปสร้างบรรทัดฐานของความรักว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ จนทำให้เกิดความคาดหวัง เกิดการรอคอยที่จะให้ความรักเป็นอย่างที่ตนคิด ฟุ้งซ่านคิดไปเองต่างๆนาๆ เป็นสาเหตุให้เกิดการโกหกระหว่างคู่นัก เพื่อที่จะประคองความรักให้เหมือนยังคงอยู่ จนกระทั่งกลายเป็นความทุกข์ที่มาทำร้ายคู่รัก ซึ่งหากคนมีความรักทุกคนยอมมองความรักด้วยความเป็นจริงว่าอะไรคือปัญหา คุณก็จะเห็นทางแก้ไขอย่างถูกทางที่จะไม่ทำให้ความรักสะดุด หรือขาดลงบนความไม่รู้จริง
ในเรื่องของความรักที่สมหวัง Will Smith นักแสดง นักร้องผิวสี ที่โด่งดัง ได้กล่าวถึงความรักไว้อย่างน่าสนใจว่า
“10 วิธีที่จะทำให้รักสมบูรณ์คือ ฟัง พูด ให้ ภาวนา ตอบ แบ่งปัน สุขสันต์ ไว้ใจ ให้อภัย และสัญญา”
– Will Smith
ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง ทั้ง10 อย่างที่เขาพูด คือสิ่งที่คู่รักทุกคู่บนโลกใบนี้ใฝ่ฝันหา แต่ทำไม่ค่อยได้ และที่ต้องเลิกราหรือสร้างความเสียใจให้กับคู่รักมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องของความไว้ วางใจและให้อภัย โดยเฉพาะความไว้วางใจ หรือความเชื่อใจที่แรกๆเปรียบเสมือนเชือกเส้นใหญ่ที่เหนียวแน่นอย่างที่สุด แต่เมื่อเส้นทางรักเกิดปัญหา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องของบุคคลที่สามที่เข้ามาทำให้ชีวิตรักเป็นคี่ไม่ใช่คู่อีกต่อไป การให้อภัยจึงเป็นการแก้ปัญหาเพื่อให้ความรักยังคงอยู่ แต่ถึงแม้จะให้ภัยและยังคงครองรักกันอยู่ แต่ความไว้วางใจเชื่อใจก็ไม่สามารถจะคงอยู่เต็มร้อยเช่นเดิม เชือกเส้นใหญ่ที่เคยผูกจูงกันไว้กลายเป็นเชือกเส้นเล็กที่ไม่มีความแข็งแรงและพร้อมจะขาด เพราะ ความเชื่อใจเหมือนกับกระจก หากแตกเสียแล้ว ต่อให้คุณซ่อมมันได้ ทุกครั้งที่ส่องกระจก คุณก็จะมองเห็นรอยร้าวอยู่ดี
และสำหรับปัญหามือที่สามที่เข้ามาสร้างจำนวนคี่ในความรักของคุณ หากเขาบอกคุณว่าเขายังรักคุณ คนๆนั้นแค่ผ่านมาเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ เชื่อขนมกินได้เลยว่า คุณจะหยุดยั้งเขาได้แค่สักพัก หรืออาจจะแค่ครั้งเดียว แต่เมื่อคุณแยกจากคนแรกได้ เขาก็จะมีคนที่สองสามสี่มาให้คุณต้องเสียใจอีกอย่างแน่ๆ นั่นจึงเป็นความจริงที่ผู้หญิงในฐานะคู่รักทุกคนจะต้องรับความเป็นจริงให้ได้ และเดินออกจากความทุกข์ใจนั้นซะ เพราะคุณจะไม่ได้เป็นคนเดียวในชีวิตของเขาอีกแล้ว อย่าไปยื้อกับสิ่งที่ไม่ใช่ของเราอีกต่อไป เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน หมดวาสนาต่อกัน จะยื้อหยุดฉุดเท่าไหร่ก็ไม่สามารถรั้งไว้ได้ รังแต่จะสร้างความทุกข์ทรมานให้กับชีวิตของคุณเสียมากกว่า เพราะเรื่องของความรักฉันท์คู่รัก ไม่มีใครอยากจะถูกแบ่งปันไปให้ใครคนอื่น หากความรักคุณเดินทางถึงจุดนี้ คุณไม่ได้มีหัวใจดวงเดียวกันกับคนรักของคุณเหมือนดั่งที่ Aristotle นักปรัชญากรีกโบราณ กล่าวไว้ว่า
“Love is composed of a single soul inhibiting two bodies”
รักคือหนึ่งวิญญาณที่แบ่งอยู่ในสองร่าง อีกต่อไป
– Aristotle นักปรัชญากรีกโบราณ
ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สามารถจะบันดาลให้มนุษย์มีทั้งสุขและทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในชีวิตและสังคมอีกทั้งยังมียืดเยื้อมากที่สุดในชีวิตมนุษย์ หากคุณอยากให้ความรักของคุณครองคู่อย่างมีความสุขที่ยั่งยืน จงทำความรักของคุณให้เป็นเช่นต้นไม้ เพราะไม่ว่ากิ่งจะแตกหักลงอย่างไรหากรดน้ำพรวนดินบำรุงขึ้นมาใหม่ กิ่งก้านที่หักก็สามารถผลิดอกออกผลขึ้นมาใหม่ได้อีก นั่นหมายถึงการให้อภัยในความผิดพลาดของคู่รักที่มาจากหัวใจคุณจริงๆ คุณทำได้หรือไม่ ? ถ้าคุณทำไม่ได้ โปรดจงเดินออกมาจากจุดที่ความรักคอยจ้องทำร้ายคุณเสียเถิด เดินออกมาด้วยความเชื่อมั่นว่า ความสุขของชีวิตยังหาได้อีกหลายอย่างโดยไม่ต้องมีเค้าคนนั้น แล้วหันมารักตัวเองให้มากๆ และเมื่อเดินจากมาแล้วอย่าเปิดประตูให้ความทุกข์ในอดีตเข้ามาทำร้ายร้ายชีวิตปัจจุบันของคุณได้ ในขณะที่คุณอาจรู้สึกว่าเป็นช่วงชีวิตที่มืดมนที่สุดของคุณ แต่คุณจะมองเห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจนที่สุด และดวงดาวดวงนั้นอาจะเป็นความรักครั้งใหม่ของคุณที่สดใสของคุณ เพียงแต่คุณต้องทุบกระจกแห่งความรักบานเก่าที่มันหมองมัวบานนั้นทิ้งไปซะ แล้วรู้จักรักตัวเองให้เป็นและรักให้มากที่สุด เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีความรักค่ะ
ขอปิดท้ายด้วยคำกล่าวฮาๆคลายเครียดของ นักแสดงและพิธีกรชาวไทย ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง ที่ว่า
“เพราะชีวิตไม่ใช่เสื้อผ้า อย่าเอาไปแขวนไว้กับคนอื่น”
– ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ