4 คำคมของ “ขงเบ้ง” กระตุ้นแรงบันดาลใจได้ทั้งในชีวิตประจำวันและธุรกิจการงาน

แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต แรงบันดาลใจในการทำงาน แรงบันดาลใจในการทําธุรกิจ

“เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”

– ขงเบ้ง

คุณคิดว่าพรสวรรค์มีจริงไหม มันก็คงจะมีแหละ แต่ก็น่าจะหนึ่งในล้าน หรือคุณคิดว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงโด่งดังในตอนนี้ คนพวกนั้นเขามีพรสวรรค์กัน ถ้าคุณคิดอย่างนั้น แสดงว่าคุณกำลังท้อแท้กับการที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างแน่นอน แต่คุณรู้อะไรไหม คนที่เขาประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงานของเขา จนมีชื่อเสียงโด่งดังทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์อย่างที่คุณคิด แต่เขามีคุณสมบัติของผู้ประสบความสำเร็จที่คุณก็สามารถมีได้เช่นกัน นั่นคือ แสวง ไม่กลัวที่จะผิดพลาด ให้เกียรติ และมองการณ์ไกล

“เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน” ประโยคคมๆจากขงเบ้งยอดนักกลยุทธ บุคคลสำคัญในสงคราม “สามก๊ก” นักกลยุทธคนนี้มีแนวคิดอันชาญฉลาดเป็นอย่างมาก แต่เขาเป็นบุคคลดังที่โดดเด่นในสงครามสามก๊กได้นั้น ก็มีส่วนมาจากประโยคข้างต้นที่เขาได้กล่าวไว้นั่นเอง

คนที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือสิ่งใดที่ตั้งใจไว้ได้ เขาไม่ได้มีความสามรถเหนือคนอื่นใด แต่คนที่ประสบความสำเร็จจะมีคุณสมบัติอย่างแรกคือ “การแสวง” เขาแสวงหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา แม้เรื่องราวความรู้มันจะยากเย็นขนาดไหน เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดแสวงหามัน ถ้าคุณอยากมีความรู้มากๆคุณก็ต้องหาหนังสืออ่าน อย่าได้รอเวลา เพราะหนังสือไม่ได้มีขาที่จะเดินมาเปิดเนื้อหาให้เราอ่าน

เมื่อคุณมีความรู้แล้วอย่าได้คิดเชียวว่า ฉันมีความรู้ผู้คนจะสนใจฉัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ถ้าคุณไม่นำวิชาความรู้นั้นมาฝึกฝน เราต้องนำวิชามาฝึกฝนจนเชี่ยวชาญโดยที่ไม่รอโอกาสจากใครคนใดคนหนึ่งมาชื่นชม โอกาสจะมาได้ก็ต่อเมื่อ คุณลงมือฝึกฝนจนเกิดเป็นความสามารถที่แท้จริงของตัวคุณ และถ้ายังแสวงหาและฝึกฝน จนเป็นความสามารถ คุณก็จะได้พบกับความสำเสร็จในชีวิต ไม่ใช่เพราะการรอคอย หรือเพราะโอกาส หรือเพราะโชคช่วย แต่มันคือความมานะของคุณ เหมือนกับประโยคของขงเบ้งนักลยุทธ

“เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด

เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลีกใส่ปลีกหาง

ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง

จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ”

– ขงเบ้ง

อีกหนึ่งคุณสมบัตินั่นคือ การไม่กลัวความผิดพลาด พระอาทิตย์มีขึ้นมีลงเสมอ ชีวิตคนก็มีลงมีขึ้น การเจออุปสรรคที่ยากลำบาก เป็นสิ่งที่กำลังพิสูจน์ตัวของคุณในคุณสมบัตินี้ ผู้ที่จะประสบความสำเร็จ เขาต้องเดินผ่านอุปสรรคกันมาทั้งนั้น เส้นทางไม่ได้สวยหรู แม้แต่สายน้ำที่ทอดยาวยังมีก้อนหินมาขวางกั้นเลย อุปสรรคมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยเฉพาะกับการทำงาน บางคนทิ้งทุกอย่างเพียงเพราะเจอปัญหาครั้งเดียว แต่บางคนเจออุปสรรคเป็นนับร้อยนับพัน แต่เขาเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด เมื่อถูกอุปสรรคถาโถมเข้ามาเหมือนก้อนหินหล่นทับปิดช่องทางเดิน เขาก็ไม่ทิ้งความเพียร แต่เขาค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละนิด มันก็เหมือนกับเขาได้หยิบก้อนหินออกไปทีละก้อนจนสามารถเดินต่อไปได้อีกครั้ง อย่ากลัวความผิดพลาด แต่จงอยู่กับมันอย่างชาญฉลาดและเรียนรู้จากมัน เหมือนดั่งคำที่ขงเบ้งกล่าว

“ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น”

– ขงเบ้ง

การที่จะประสบความสำเร็จได้ ไม่สามารถเดินได้เพียงลำพัง คุณจะต้องรู้จักผู้คนอีกมากมาย และพึ่งพาอาศัยกับคนที่จะสนับสนุนเรา และการที่เรามีผู้คนที่คอยสนุนสนุนได้ คุณต้องมีคุณสมบัติอย่างที่สามนั่นคือ “ ให้เกียรติ” ให้เกียรติในที่นี้ นั้นรวมถึงความเคารพอ่อนน้อมถ่อมตน แสดงความสุภาพให้กับผู้ที่คอยช่วยเหลือเรา แม่ทัพใหญ่อย่างขงเบ้ง ยังต้องให้เกียรติเหล่าทหารที่ร่วมศึก เมื่อเป็นเช่นนั้นทหารที่ร่วมศึกกับขงเบ้ง จึงรักและคิดที่จะสู้จนตัวตายเพื่อให้ขงเบ้งได้เป็นใหญ่ขึ้นมา การที่เราให้เกียรติกับใครคนหนึ่ง คนๆนั้นก็จะชื่นชอบเรา การให้เกียรตินั้นไม่ใช่ประจบประแจง แต่เป็นการแสดงความเคารพต่อผู้มีพระคุณกับเรา และเมื่อเราให้เกียรติเขา เขาก็จะให้เกียรติเรากลับเช่นกัน ดังนั้นการที่จะเป็นผู้มีเกียรติได้ ก็จะต้องให้เกียรติผู้อื่นเสียก่อน

“คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น

แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต”

– ขงเบ้ง

คุณสมบัติข้อสุดท้ายนั้นคือ เป็นผู้ที่มองการณ์ไกล เมื่อเราได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่ทำมาแล้ว อย่าเพิ่งหยุดนิ่ง เพราะเส้นทางชีวิตไม่ได้จบลงเพียงแค่ได้รับผลประโยชน์ครั้งแรก ดังนั้นการที่จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง จะต้องมีการวางแผนเพื่อรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า และแน่นอนมันเป็นเหมือนดั่งคำที่ขงเบ้งได้กล่าว คนส่วนใญ่สนใจแต่ผลประโยชน์ขั้นแรกได้มา จนลืมไปเลยว่ามันก็อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผลประโยชน์นั้นหมดไป  และคนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต อย่าได้เป็นเป็นคนส่วนใหญ่ที่เพลิดเพลินกับผลระยะสั้น แต่จงเป็นคนฉลาดที่จะมีความสุขกับผลในระยะยาวของวันข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น