วันนี้ (5 พ.ค.64) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการ “คนละครึ่งเฟส 3” เพื่อจ่าย "เยียวยา" ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกล่าสุด (เมษายน 2564) โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยาคนละ 3,000 บาท 31 ล้านคน วงเงินกว่า 9 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 6 เดือน คือ กรกฎาคม-ธันวาคม 2564
สำหรับรายละเอียดต่างๆ ของ “คนละครึ่งเฟส 3” กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมมาให้รู้กันก่อนใคร ดังนี้
1. ใครมีสิทธิ์ในโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" บ้าง?
สำหรับกลุ่มผู้ที่มีสิทธิ์ลงทะเบียน โครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” ต้องมีคุณสมบัติตามนี้ คือ
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย ที่มีบัตรประจำตัวประชาชน
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
*หมายเหตุ : ผู้ที่ได้รับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ในโครงการ “คนละครึ่ง” แล้ว จะไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการ “ช้อปดีมีคืน”
2. “คนละครึ่งเฟส 3” ใช้วงเงิน 93,000 ล้านบาท
ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หารือกันและได้ข้อสรุปว่า โครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” จะมีการใช้วงเงินทั้งหมดประมาณ 93,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยาคนละ 3,000 บาท ให้แก่ผู้มีสิทธิ์ราว 31 ล้านคน
3. ระยะเวลาโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” ยาวนานขึ้น
รัฐบาลออกแบบโครงการ "คนละครึ่ง" ในระยะ 3 นี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนภายในระยะเวลา 6 เดือน คือ กรกฎาคม-ธันวาคม 2564 หรือช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้
โดยก่อนหน้านี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการลงทุนจะออกมาเป็นแพ็กเกจประมาณเดือนพฤษภาคม โดยจะเป็นมาตรการเดิมเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงยังมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังจะมีมาตรการใหม่เพื่อสนับสนุนให้คนมีเงินออมที่มีอยู่ 6-7 แสนล้านบาท ให้ออกมาใช้จ่าย อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังคิดมาตรการ
“มาตรการที่ออกมาไม่ต้องแข่ง ให้คนที่เคยรับสิทธิ์มาตรการของรัฐบาลอยู่แล้วกดรับสิทธิ์ยืนยัน คนมีเงินก็จะได้ใช้เงินให้เต็มที่ด้วย จะได้ไม่ต้องไปแย่งโครงการคนละครึ่ง” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
ครม.ประชุมถกสถานการณ์โควิด-19 พร้อมเคาะมาตรการ "เยียวยา" ประชาชน คาดดัน "คนละครึ่ง" เฟส 3 เตรียมประเมินจำนวนผู้เดือดร้อนและระยะเวลาในการเยียวยา ดึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจช่วยลดค่าครองชีพค่าน้ำ - ค่าไฟ 2 เดือน ชะลอเที่ยวด้วยกันเฟส3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 พ.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
โดยวาระสำคัญที่ ครม.จะมีการหารือกันคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ซึ่งยังมีความรุนแรงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูง มีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตทุกวัน
โดยนอกจากที่ประชุมฯจะหารือเรื่องสถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 หน่วยงานเศรษฐกิจ อย่าง กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะได้นำเสนอมาตรการเยียวยา และช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 ระลอกใหม่ อย่าง คนละครึ่ง เฟส 3 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำรายละเอียดเบื้องต้นเพื่อให้ ครม.เห็นชอบในหลักการ และไปเร่งจัดทำรายละเอียดต่างๆเพื่อให้มาตรการมีผลบังคับใช้โดยเร็ว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าสำหรับมาตรการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ประกอบไปด้วยมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน เช่น การลดค่าน้ำ-ค่าไฟ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน มิ.ย. - ก.ค. โดยใช้เกณฑ์เดิมจากที่เคยอนุมัติไปเมื่อการระบาดครั้งก่อน
โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ซึ่งสามารถอนุมัติได้เร็วเนื่องจากมีฐานข้อมูลเดิมอยู่ โดยจะเป็นโครงการที่ช่วยประคองกำลังซื้อในช่วงไตรมาสที่ 3 - 4 ของปีนี้
ส่วนมาตรการเยียวยาผู้มีรายได้น้อยอยู่ระหว่างประเมินจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบ และกำหนดเม็ดเงินและระยะเวลาในการเยียวยาที่เหมาะสม เบื้องต้นจะมีการเยียวยาประมาณ 3 เดือน ส่วนมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอให้มีการเลื่อนระยะเวลาโครงการออกไปก่อนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้
สำหรับวาระ ครม.ที่น่าสนใจในวันนี้ ได้แก่ วาระเพื่อพิจารณา กระทรวงพาณิชย์ เสนอการต่ออายุ โครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เราจะยกเลิก ภาษีนำเข้าและโควตา ของไทยระยะที่ 2
กระทรวงการคลัง เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษ
ส่วนวาระเพื่อทราบ ได้แก่ คณะกรรมการ กนศ. รายงานผล การดำเนินการเรื่อง CPTPP ตามมติครมเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ต้น เบื้องต้น สกพอ. รายงานผลการสอบบัญชีสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 และรายงานประจำปี 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอร่างกฎกระทรวง กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสงสัย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
สำนักงานกพร.เสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการสํานักนายกรัฐมนตรี
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องซักผ้าใช้ในที่อยู่อาศัยคุณลักษณะที่ต้องการ ด้านประสิทธิภาพพลังงานที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และเสนอ ร่างกฎกระทรวง กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขั้วปลั๊กหลอดฟลูออเรสเซนต์ และขั้วรับสตาร์ตเตอร์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
คณะกรรมการการใช้จ่ายภาครัฐ เสนอ ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ กระทรวงพาณิชย์ เสนอรายงานประจำปี 2562 ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)
กระทรวงคมนาคม เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลจานใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ ตำบลเสียว ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์จังหวัดศรีสะเกษ