DoubleVerify ชี้ โฆษณาดิจิทัลไทยโตแรง “วิดีโอ-สตรีมมิ่ง” นำเทรนด์

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

ตลาดโฆษณาดิจิทัลไทยเปิดโอกาสทองสำหรับแบรนด์ที่ปรับตัวทัน

DoubleVerify หรือ DV บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการตรวจสอบความโปร่งใสและคุณภาพโฆษณาออนไลน์ เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์โฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นแนวโน้มที่น่าสนใจและโอกาสมหาศาลสำหรับนักการตลาดในยุคดิจิทัล พร้อมเตือนถึงความท้าทายใหม่ที่แบรนด์ต้องเตรียมรับมือในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

จากผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีอัตราการเติบโตของการบริโภคสื่อดิจิทัลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลายมิติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจที่กำลังวางแผนการตลาดดิจิทัลในอนาคตอันใกล้

สตรีมมิ่งขยายตัวต่อเนื่อง ตอกย้ำโอกาสทองของวิดีโอคอนเทนต์

หนึ่งในข้อค้นพบที่โดดเด่นจากการสำรวจ คือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในประเทศไทย โดยผู้บริโภคกว่า 84% ระบุว่าพวกเขาจะยังคงเดิมหรือเพิ่มการรับชมเนื้อหาผ่านบริการสตรีมมิ่งในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการมองเห็นโฆษณาวิดีโอในไทยที่พุ่งสูงถึง 87% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 78% อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่ยังบ่งชี้ถึงโอกาสทองสำหรับแบรนด์ในการสื่อสารผ่านวิดีโอคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายบนโลกออนไลน์

คนไทยเปิดรับโฆษณาวิดีโอมากกว่าที่คิด

สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ ทัศนคติเชิงบวกของผู้บริโภคไทยต่อโฆษณาวิดีโอ โดย 76% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ายินดีรับชมวิดีโอที่มีโฆษณาสนับสนุนบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในหลายประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น คะแนน Attention Index ของผู้บริโภคไทยยังพุ่งสูงถึง 168 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ 100 แสดงให้เห็นว่าโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดีกว่าตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อนำเสนอในรูปแบบและบริบทที่เหมาะสม

ปัจจัยเหล่านี้เปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ตรงใจผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอโฆษณาที่สร้างสรรค์ เข้าถึงง่าย และมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผู้ชมกำลังรับชม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการลงทุนด้านการตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ

พฤติกรรมผู้บริโภคยุคหลังโควิด: ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

อีกหนึ่งแนวโน้มสำคัญที่ DoubleVerify พบจากการสำรวจ คือ พฤติกรรมการซื้อที่รอบคอบมากขึ้นของผู้บริโภคในยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดย 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาใช้เวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้นก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าราคาสูงหรือสินค้าที่มีมูลค่ามาก

พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลให้แบรนด์ต้องปรับตัวด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก น่าเชื่อถือ และครอบคลุมทุกแง่มุมที่ผู้บริโภคต้องการทราบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มเป้าหมาย

แบรนด์ต้องโปร่งใสและมีจุดยืนที่ชัดเจน

ในยุคที่ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับค่านิยมของแบรนด์มากขึ้น การสื่อสารอย่างจริงใจและมีความรับผิดชอบต่อสังคมกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

จากการสำรวจพบว่า 68% ของผู้บริโภคไทยมองว่าแบรนด์จะถูกตั้งคำถามหากโฆษณาปรากฏใกล้กับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือบิดเบือนความจริง ในขณะที่ 78% ชื่นชอบแบรนด์ที่แสดงออกถึงความจริงใจ และอีก 79% มีแนวโน้มจะสนใจโฆษณามากขึ้นหากมีความเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่พวกเขากำลังรับชม

DoubleVerify ยกตัวอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ความเสี่ยงด้านความเหมาะสมของสื่อเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า โดยเฉพาะในหมวดเนื้อหาภัยพิบัติและความรุนแรง ซึ่งหากโฆษณาไปปรากฏในบริบทที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์อย่างรุนแรง

AI: ดาบสองคมที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง

ในขณะที่เทคโนโลยี AI กำลังเปลี่ยนโฉมวงการโฆษณาดิจิทัล จากผลสำรวจพบว่าประเทศไทยมีอัตราการใช้งาน AI ในภาคธุรกิจสูงถึง 92% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 78% อย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ของผู้ประกอบการไทย

อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าดังกล่าวมาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย 60% ของนักการตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกังวลว่า AI อาจลดทอนคุณภาพของสื่อโฆษณา และอีก 55% กังวลเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ยากต่อการตรวจจับ

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน คือ ประเทศไทยยังติดอันดับสูงสุดในภูมิภาคด้านความเสี่ยงจากการฉ้อโกงผ่าน Adware และ Malware โดยเฉพาะจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮก ซึ่งมีอัตราการละเมิดสูงกว่าประเทศอื่นถึง 2.4 เท่า เป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน

ทางรอดของนักโฆษณายุคใหม่: ใช้เทคโนโลยีในทางที่ถูกต้อง

แม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่ DoubleVerify ก็มองว่าเทคโนโลยี AI สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยนักการตลาดยกระดับประสิทธิภาพของแคมเปญได้ หากนำมาใช้อย่างเหมาะสมและมีกลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ

โดย DoubleVerify แนะนำให้แบรนด์พิจารณาใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถช่วยจัดการกับเนื้อหาจำนวนมหาศาล พร้อมรักษาความเหมาะสมของบริบทโฆษณาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งระบบ AI ของ DoubleVerify เองก็มีความสามารถในการวิเคราะห์เนื้อหาในระดับหน้าเว็บ เพื่อให้โฆษณาปรากฏในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัย

นอกจากนี้ DoubleVerify ยังมีเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ที่สามารถลดความเสี่ยงและปกป้องงบประมาณโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยี Predictive AI ที่ช่วยลดขั้นตอนการปรับแต่งแคมเปญและเพิ่ม ROI ได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การบริหารจัดการแคมเปญมีความคล่องตัวและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น

บทสรุป: โอกาสและความท้าทายของโฆษณาดิจิทัลไทย

จากรายงานของ DoubleVerify ชี้ให้เห็นว่าตลาดโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยเต็มไปด้วยโอกาสมหาศาลสำหรับแบรนด์ที่เข้าใจและสามารถปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในด้านการรับชมวิดีโอคอนเทนต์และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ในขณะเดียวกัน ความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยี AI และการฉ้อโกงรูปแบบใหม่ก็เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง โดยการสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยทั้งความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและเครื่องมือที่มีความแม่นยำด้านข้อมูลและความปลอดภัย

ท้ายที่สุด ความโปร่งใส ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา และคุณภาพของแพลตฟอร์มจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแคมเปญโฆษณาและภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว ซึ่งแบรนด์ที่สามารถปรับตัวและสร้างสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดกับการรักษาความน่าเชื่อถือจะเป็นผู้ที่ได้เปรียบในตลาดโฆษณาดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย