5 ข้อคิดดี ๆ จาก “หลักเซ้ง” ละคร “กรงกรรม”

แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต แรงบันดาลใจในเรื่องความรัก

ชีวิตคนเรามีแค่ 3 วัน
“เมื่อวาน” เราใช้ไปแล้วเอามาใช้ไม่ได้
“วันนี้” เรากำลังใช้อยู่และใช้ได้แค่ครั้งเดียว
“พรุ่งนี้”ยังมาไม่ถึงและไม่รู้จะได้ใช้ไหม

– หลักเซ้ง ละคร กรงกรรม (2562)

ใช่ค่ะ ชีวิตของคนเรา วนเวียนอยู่แค่ 3 วันนี้ เท่านั้น
“เมื่อวาน” คือ “อดีต” หรือหมายถึงวันที่ผ่านไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก ไม่ว่าจะทำอะไร เราควรมีสติในการ วางแผนงานที่จะทำให้พอดีกับจังหวะชีวิต โดยไม่เร่งรีบ หรือช้าจนเกินไป
“วันนี้” คือ “ปัจจุบัน” วันที่เราสามารถกำหนดสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการจะทำได้ตั้งแต่ลืมตา แผนงานที่ถูกวางไว้ควรดำเนินการได้ครบทุกกระบวนการ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ให้เป็นดินพอกหางหมู แล้วนำไปเป็นข้ออ้างว่าไม่ทัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างวินัยอีกทางหนึ่งด้วย
“พรุ่งนี้” คือ “อนาคต” หรือวันที่ยังมาไม่ถึง เราจึงไม่ควรกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า พรุ่งนี้จะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เพราะเราอาจจะไม่มีโอกาสได้อยู่ถึงวันพรุ่งนี้ก็ได้

ดังนั้น สิ่งที่เราทุกคนควรทำ คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าเราตั้งใจและพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ จากความจริงข้อนี้ เราจึงไม่ควรจมอยู่กับอดีตที่ผ่านมา แต่จงคิดเสมอว่านั่นคือบทเรียนที่จะนำมาใช้เพื่อเรียนรู้ และไม่ควรกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป แต่สิ่งที่เราควรจดจ่ออยู่กับมันมากที่สุด นั่นคือ “ปัจจุบัน” เพราะถ้าหากวันนี้ทำดีแล้ว อนาคตของเราก็จะดีไปด้วย

บางที เรื่องแย่ ๆ บางเรื่อง

มันเป็นเพราะ เรามีอคติไปเอง

– หลักเซ้ง ละคร กรงกรรม (2562)

อคติ ในความหมายของศาสนาพุทธ คือ การดำเนินไปในทางที่ผิด หรือตัวอย่างความรู้สึกที่เข้าใจง่าย ๆ เช่นการทำงานเป็นทีม แต่เราไม่ชอบบางคนในทีม ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แบบนี้เรียกว่าอคติ คือ ความไม่ชอบส่วนตัว แต่ถ้าหากเปิดใจ ลองพูดคุยกัน บางทีเราอาจจะได้เพื่อนที่ดีที่สุดเพิ่มก็ได้

เรื่องบางเรื่องที่เราพบเจอ บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด แต่อาจเป็นเพราะเรามีความกลัวอยู่ในใจ เลยกังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด ถ้าเราตั้งสติ และยอมรับกับความจริงที่จะเกิดขึ้น เราอาจจะเจอทางออกที่คาดไม่ถึง ดังนั้น เราจึงควรทำลายกำแพงแห่งอคติออกไปให้หมด เพื่อความสุขในชีวิต

“เงินทองไม่มีวันหมด เพราะอยู่ในเหงื่อ แต่ไม่หยุดคิด หยุดทำงาน เงินก็ออกดอก ออกผล มาให้เราเก็บเกี่ยวทุกวัน”
จาก หลักเซ้ง ละคร กรงกรรม

ขึ้นชื่อว่าการทำงาน ไม่มีใครหรอกที่ทำงานแล้วไม่เหนื่อย แต่ทุกคนก็ยอมเหนื่อย เพราะสิ่งที่ได้กลับมานั้นก็คือ “เงิน” ปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต เพราะถ้าเรามีเงิน ไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถหามาสนองความต้องการได้หมด แต่ก็ต้องรู้จักการเก็บออมด้วย

คนขี้เกียจ มักจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปเฉย ๆ โดยไม่ไขว่คว้าไว้ เมื่อเสร็จจากงานก็เที่ยวเล่นอย่างเดียว ไม่คิดทำอะไรเพิ่ม ซึ่งต่างกับคนขยันที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเงินทุกโอกาส สามารถต่อยอด และทำกำไรให้งอกงามได้อย่างดีเยี่ยม

 

ความดี จะเป็นทรัพย์สมบัติติดตัว

ที่ใคร(คนอื่น)เอาไปไม่ได้

– หลักเซ้ง ละคร กรงกรรม (2562)

ไม่ว่าใครก็อยากมีสมบัติกันทั้งนั้น เพราะนั่นคือเครื่องหมายของคนมีฐานะ ไม่ต้องทำงานก็สบายไปทั้งชาติ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เกิดมาจะมีสมบัติตั้งแต่แรก ถ้าใครที่เกิดมามีฐานะดีก็โชคดีไป แต่ปัญหาของการมีสมบัติมากก็คือมีการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องการแย่งชิงกัน จนอาจเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นได้

ถ้าเราทำตัวดี คนอื่นก็จะทำดีกับเรา แต่ถ้าเราทำตัวไม่ดี คนอื่นก็ไม่อยากยุ่ง ดังนั้น ความดีจึงเป็นสมบัติติดตัวที่แสดงออกให้คนอื่นเห็นว่าควรจะปฏิบัติกับเรายังไง ซึ่งความดีมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เกิดจากการกระทำ ถึงแม้ความดีจะทำได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

บางที อาจเป็นเวรกรรม ตั้งแต่ชาติไหน ก็ไม่รู้
ถึงได้เกลียดชังกัน
ตัดกรรมเสียเถิด จะได้ไม่ต้องต่อเวรต่อกรรมกันอีก

– หลักเซ้ง ละคร กรงกรรม (2562)

เคยรู้สึกไม่ชอบหน้า หรือไม่ถูกชะตากับใครบ้างไหม ? แล้วทำไมจึงไม่ชอบ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้  ? การหาคำตอบนี้อาจจะยากสักหน่อย เพราะเราเองก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม หรือบางทีอาจจะเป็นกรรมเก่าที่เคยกระทำอะไรต่อกันไว้ แล้วจึงต้องมาเจอกันในชาตินี้

การที่ไม่ชอบใครอาจจะเป็นเพราะว่าเราเห็นลักษณะ ท่าทาง ที่ไม่ถูกใจเรา ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสไตล์ของเขา ทางที่ดี ให้อโหสิกรรมไป และลองเปิดใจ ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสที่ได้รู้จักกัน เขาอาจจะเป็นคนดีกว่าที่เราเห็น เพราะเราไม่สามารถตัดสินคนจากภายนอกได้