5 คำคมจากหนังดัง แรงบันดาลใจให้คุณเอาชนะอุปสรรคในชีวิตประจำวัน

แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต

“ใช่แล้วล่ะ อดีตมันสามารถทำร้ายเธอได้ แต่เธอจะเลือกวิ่งหนีอดีต หรือเรียนรู้จากมันล่ะ”
(Oh yes, the past can hurt. But you can either run from it, or learn from it.)

จากหนังเรื่อง The Lion King (1994)

‘’ทุกๆ เรื่องราวในอดีตได้มอบประสบการณ์ที่มีค่าหากเรารู้จักเรียนรู้จากมัน’’ ในชีวิตของคนเรานั้นมันสั้นเหลือเกิน เป็นคำที่พวกเราดูคุ้นเป็นอย่างดี ไม่มีใครรู้เลยว่าพรุ่งนี้เราจะตื่นขึ้นมาไหม ในชีวิตของเราข้างหน้าจะต้องเจออะไรบ้าง ถ้าเรามัวจมปลักกับเรื่องราวในอดีตที่เลวร้าย ความผิดพลาดที่เคยทำ

ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกที่ผู้คนมักจะนึกขึ้นได้ในตอนที่กำลังท้อใจ หมดเรี่ยวแรง หรือผิดหวัง ผู้คนจะกลับนำมาคิดให้บั่นทอนจิตใจอยู่เสมอ มันจะทำร้ายเรา แต่ ถ้าเราเข้มแข็งกันอีกนิด สู้และเรียนรู้ถึงอดีตที่เคยผิดพลาด อดีตก็จะไม่สามารถทำร้ายเราได้อีกต่อไป กลับกันยิ่งจะช่วยให้เราได้รู้ถึงข้อผิดพลาดและปรับปรุงมันให้ดียิ่งๆขึ้น

“เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต” มันไม่ใช่เรื่องน่าอายถ้าเราต้องผิดพลาดจากเรื่องซ้ำๆ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ปรับปรุงทำให้มันดีขึ้น ไม่ทำให้อดีตเหล่านั้นย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราได้เรียนรู้ทำให้มันดีขึ้นยังดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลยจนอดีตนั้นกลับมาทำร้ายเราซ้ำๆไปเรื่อยๆ

ในโลกนี้ ไม่มีหรอกใครที่ไม่เคยผิดพลาดในอดีต ทุกๆคนรู้จักรสชาติของความผิดพลาดกันเป็นอย่างดี จงเรียนรู้หาประสบการณ์และนำมาใช้ชีวิตของเราอย่างเข้มแข็งกันเถอะ

 

“ทำไมต้องพยายามทำตัวให้กลมกลืน ในเมื่อเธอเกิดมาเพื่อที่จะแตกต่าง”
(Why are you trying so hard to fit in when you were born to stand out?)

จากหนังเรื่อง What a Girl Wants

‘’จงภูมิใจที่เป็นตัวเอง เพราะไม่มีใครในโลกอีกแล้วที่เหมือนคุณ’’ สังคมในปัจจุบันมีคนหลากหลายประเภท บุคลิกหลากหลาย ทุกๆคนต่างผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นที่ต้องเข้าไปในสังคมใหม่ๆ การเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนเป็นสิ่งที่วิเศษในตอนนั้น เราจึงต้องทำตัวให้กลมกลืน เพื่อให้เพื่อนนั้นยอมรับ จนบางทีก็เสียความเป็นตัวเองไปเสียดื้อๆ มาจนถึงวัยที่เราได้โตขึ้น วัยทำงาน เรานั้นมีประสิทธิภาพในการทำงานที่หลากหลายแต่เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวนั่นทำให้หลายๆคนจำเป็นที่ต้องปิดบังประสิทธิภาพของตัวเอง เพราะเพื่อต้องปรับตัวให้กลมกลืน แต่ เราจะพยายามทำตัวกลมกลืนไปทำไม ในเมื่อเรานั้น เกิดมาเพื่อที่จะแตกต่าง

พระเจ้าได้สร้างผู้คนมาให้มีเอกลักษณ์ และศักยภาพเฉพาะตัว และนั้นมันคือเรื่องดี จงเป็นตัวของตัวเองที่สวยงามและแตกต่าง ดีกว่าที่จะเป็นเหมือนคนอื่นจนได้สูญเสียความเป็นตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว

 

“สิ่งที่เราต้องตัดสินใจก็คือ จะทำอะไรกับเวลาที่เรามีอยู่”
(All we have to decide is what to do with the time that is given to us.)

จากภาพยนตร์เรื่อง Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)

’จงใช้ชีวิต อย่าปล่อยให้มันสูญเปล่า’’ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อเรามานั่งๆคิดดูดีๆ เรานั้นเกิดมาใช้ชีวิตได้แค่ “ครั้งเดียว” และเวลาในชีวิตของเรานั้นช่างแสนสั้น บางคนชีวิตอาจจะยืนยาว แต่สุดท้ายจุดจบในทุกๆชีวิตก็คือ การเกิดมาและดับไป ฉะนั้น เราต้องมานั่งคิดกันแล้วว่า เราจะทำอะไร กับ “เวลา” ที่เหลืออยู่ มันถึงเวลาแล้วไหมที่ต้องใช้เวลาเหล่านั้นให้คุ้มค่า อาจจะใช้ไปกับการหยุดพักร้อนสัก 1 อาทิตย์ในการอยู่กับตัวเอง ให้รางวัลตัวเองด้วยการให้ร่างกายได้พักผ่อนซักหน่อยหลังจากที่ขยันทำงานหนักโดยไม่ลาพักร้อนมานาน สละเวลานั้นเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์มันก็คุ้มแล้วให้ร่างกายได้พักบ้างนะ รู้ไหม

บางที การละสายตาจากหน้าจอ จากกองงานและหยิบโทรศัพท์มาโทรหาพ่อ แม่ มันก็เปรียบเสมือนการได้ชาร์ตแบตให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้า ท้อ มานานได้มีแรงฮึดมาสู้ใหม่อีกครั้ง เชื่อเถอะนะว่า ไม่ใครเสียงไหนจะเติมพลังให้เราเท่าเสียงของพ่อแม่และครอบครัวที่ให้กำลังใจ สู้ๆนะ

 

“ทุกอย่างจะผ่านไปเร็วมาก หากคุณไม่รู้จักหยุดและมองไปรอบๆ สักครั้ง คุณอาจจะพลาดบางอย่างไป”
(Life moves pretty fast. If you don’t stop and look around once in a while, you could miss it.)

Ferris Bueller, จากภาพยนตร์เรื่อง Ferris Bueller’s Day Off (1986)

‘’ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าจะพลาดอะไรไป’’ สังคมสมัยนี้ ใครไวกว่ามักได้ผลประโยชน์ที่มากกว่า ชีวิตในปัจจุบันเลยมีแต่ความเร่งรีบ มีแต่การแข่งขันจนบางทีก็ลืมที่จะมองข้างทางว่าเราได้พลาดอะไรไปหรือเปล่า แน่นอน เมื่อทุกๆคนเริ่มที่จะใส่ใจที่ข้างทาง กลับกลายเป็นว่าได้ลืมสิ่งต่างๆไว้เยอะมาก มากซะจนน่าใจหาย ลองหยุดขนขวาย หยุดมองรอบๆตัวเรา ว่าเรานั่นได้ลืมและพลาดอะไรไว้บ้างๆ

ลองมานั่งพักหายใจและนึกถึงเวลาพักผ่อนที่มันเราเริ่มจะลืมมันไปแล้วทีละนิด การกินข้าวที่ตรงเวลา เราเริ่มที่จะปล่อยมันไปทั้งๆที่มันก็สำคัญ สุขภาพร่างกายที่เริ่มอ่อนแอเพราะเราใช้โหมทำงานซะจนตอนนี้เหมือนจะเป็นไข้โดยไม่รู้ตัว เสียงของพ่อแม่ เราโทรหาครั้งสุดท้ายเมื่อไรกันนะ ต้นไม้ในห้องที่ซื้อมาไว้และตอนนั้นสัญญาไว้ว่าจะรดน้ำดูแลอย่างดีตอนนี้ยังทำได้อยู่ไหม ทุกๆวันเวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราถึงได้พลาดและลืมอะไรไปหลายอย่างเลย ลองกลับมานึกใส่ใจกับมันซักนิดกันเถอะ