4 คำคมหนังดัง สร้างแรงบันดาลใจในการเลือกทางเดินชีวิต

แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต

ชีวิตก็เหมือนกล่องที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลต คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณจะได้รสอะไร

Life was like a box of chocolates. You never know what you’re gonna get.

จากหนัง Forrest Gump (1994)

บ่อยครั้งที่ความท้อถอยมุ่งหน้าถาโถมเข้าหาเราอย่างหนักหน่วงจนเราหมดแรงเหนื่อยล้าหมดหวังที่จะลุกขึ้นยืนต่อในวันรุ่งขึ้นและบ่อยครั้งที่ความผิดหวังต่างเดินเข้ามาทักทายอย่างไม่ทันตั้งตัว หลายต่อหลายครั้งที่คำว่าสมหวังนั้นเป็นแค่ชื่อลุงข้างบ้าน และหลายครั้งที่ทำอะไรแล้วคุณกลับรู้สึกว่าอีกแล้วสินะที่ต้องพบเจอกับความผิดหวังจนไม่กล้าที่จะลุกขึ้นเปิดประตูออกตามหาสิ่งที่ฝันอยู่เหมือนอย่างเคยแต่อย่าลืมไปว่า เมื่อเรารู้สึกสมหวังดั่งใจปราถนาแล้วมันคือสิ่งที่หอมหวานเสมอ คงไม่แปลกนักที่จะพบเจอกับมันได้ไม่ง่ายแต่ก็คงไม่ยากเกินกว่าความสามารถของคนคนนึงหรอกนะ อย่าพึ่งท้อถอยหมดเรี่ยวแรงตามหาหนทางแห่งความฝันก่อนเลย ตราบใดที่บนโลกนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนโชคชะตาคงไม่เล่นตลกกับใครสักคนซ้ำแล้วซ้ำเหล่าหรอก หากในฤดูร้อนยังมีฝนที่โปรยปรายตกหนักได้แล้วหากเราพยายามจนถึงที่สุดก็อาจทำให้ในอีกวันหนึ่งนั้นมีบางสิ่งบางอย่างรอเราอยู่ก็เป็นได้ โชคชะตาเป็นเรื่องไม่แน่นอนเพราะฉะนั้นอย่าพึ่งหยุดเปิดประตูเดินออกไปตามหาความฝันก่อนเลยเพราะเราไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีอะไรที่รอเราอยู่กันแน่

ชีวิตของคนเราถูกกำหนดด้วยโอกาส แม้แต่โอกาสที่เราพลาดไป

Our lives are defined by opportunities. even the ones we miss

จากหนัง The Curious Case of Benjamin Button

บ่อยครั้งที่เราคิดว่าหากจะประสบความสำเร็จหรือสมดั่งหวังได้นั้นจะต้องทุ่มเทด้วยแรงกายและความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ ก็อาจจะเป็นความคิดที่ถูกแต่ก็ไม่ถูกทั้งหมดซะทีเดียว หลายต่อหลายครั้งที่มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าโอกาสหยิบยื่นเข้ามาในชีวิตของเราเสมอไม่ว่าจะเป็นโอกาสเพียงเล็กน้อยหรือโอกาสอันยิ่งใหญ่ก็ตามเมื่อโอกาสเข้ามาในชีวิตแล้วคงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะฉกฉวยและคว้ามันเอามาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง แต่ก็ยังคงมีคนอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงลังเลที่จะคว้าโอกาสในชีวิตที่มาถึงเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีโอกาสแบบเดิมเข้ามาอีก แต่ใครจะรู้ล่ะว่าโอกาสที่เข้ามาในชีวิตพอดีกับระยะเวลาที่พอเหมาะนั้นมันยากที่จะเกิดขึ้นพอๆกับที่ใครบางคนรอคอยความหวังบางอย่างอยู่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยรอบตัวเรามีผลต่อการสร้างโอกาสให้กับเราด้วย หากอยากได้รับโอกาสแบบไหนก็พาตัวเองไปอยู่ในเรื่องราวเหล่านั้น บางคนเลือกที่จะเป็นฝ่ายขวนขวายหาโอกาส บางคนเลือกที่จะนั่งรอโอกาสอยู่ในห้อง บางคนเลือกที่จะมองคนอื่นเป็นตัวอย่างในการหาทางเข้าสู่โอกาส แต่คงบอกไม่ได้หรอกว่าใครกันจะคือผู้โชคดีที่ได้โอกาสเหล่านั้นแต่หากเราเป็นฝ่ายที่จะขวนขวายหาโอกาสเหล่านั้นก่อนก็ย่อมมีสิทธิ์มากกว่าคนที่นั่งรอโอกาสเหล่านั้นแต่หากเรามีโอกาสนั้นแล้วแต่ยังไม่รีบคว้าเอาไว้ชีวิตเราครั้งนึงอาจจะเคยพลาดโอกาสครั้งนั้นไปเลยก็ได้

สิ่งที่คุณคิดว่าฉุดคุณลง อาจเป็นสิ่งเดียว(กัน) (กับ)ที่ยกคุณขึ้นในอนาคต

จากหนัง Whiplash (2014)

ในชีวิตของทุกคนต่างมีสิ่งที่ชอบทำและสิ่งที่ไม่ชอบทำคนส่วนใหญ่มักเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบเสมอเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขและทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น แต่จะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ชอบหรือสิ่งไหนคือสิ่งที่ไม่ชอบเพราะไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น บางคนอาจจะจำแนกสิ่งเหล่านั้นจากความรู้สึกส่วนตัวหรือจากประสบการณ์ที่ตัวเองพบเจอมาหรือบางคนอาจจะจำแนกสิ่งเหล่านั้นจากคำพูดของคนอื่น จนในบางครั้งอาจจะลืมไปว่าโลกนี้กว้างใหญ่ยิ่งกว่าที่เขาเคยพบเจอ ภาพที่เห็นกับสิ่งที่เป็นจึงไม่อาจเหมือนกันทั้งหมด หรือ คำพูดของคนอื่นไม่สามารถเล่าประสบการณ์ที่จะพบเจอออกมาจริงๆได้เพราะความรู้สึกของแต่ล่ะคนนั้นย่อมแตกต่างกัน เราควรที่จะกล้าลองทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอแล้วค่อยเอาประสบการณ์จากการที่ลงมือทำนั้นมาตัดสินว่า สิ่งนั้นฉุดคุณลงทำให้คุณแย่แล้วคุณควรเลือกที่จะไม่ชอบมันหรือไม่ เพราะในบางครั้งแล้วสิ่งที่คุณคิดว่าอาจจะฉุดคุณลงนั้นอาจเป็นสิ่งเดียวกับที่ฉุดคุณขึ้นในอนาคตก็เป็นได้

ชีวิตคนเราไม่มีปุ่ม Ctrl+Z

ไม่เหมือนคอม ที่จะย้อนกลับไป แก้ไขเริ่มต้นใหม่ได้

จากหนัง แฟนเดย์

บ่อยครั้งที่เราใช้ชีวิตอย่างไม่มีการวางแผนหรือตัดสินใจปล่อยทิ้งโอกาสบางอย่างให้หลุดมือไปหรือบ่อยครั้งที่มีบางสิ่งบางอย่างผ่านเข้ามาในชีวิตแต่กลับไม่รักษามันเอาไว้ หากเปรียบชีวิตเราเหมือนการทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นคงต่างกันมาก สำหรับคอมแล้วข้อมูลที่หายไปอาจถูกบันทึกไว้ในความจำของมันแต่กับชีวิตคนเราแล้วเรื่องราวบางอย่างหรือสิ่งของบางสิ่งที่หายไปคงยากที่จะตามเก็บกลับคืนมาเป็นของตัวเองได้พอๆกับที่หากเราทำอะไรผิดพลาดไปแล้วก็คงจะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้เช่นกัน