เราชนะ ลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ. ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

(21 ม.ค.64) ความคืบหน้าล่าสุด สำหรับมาตรการ “เราชนะ” เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนด้วยการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือไม่เกิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน โดยทยอยจ่ายเป็นรายสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 2 เดือน (จ่ายเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม 2564) ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ทำให้หลายฝ่ายเกิดข้อกังวล สำหรับบุคคลที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้โพสต์ตอบคำถาม ที่หลายคนสงสัยเอาไว้ดังนี้

คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะหมดโอกาส เพราะไม่สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิในโครงการเราชนะได้ ใช่หรือไม่?

ตอบ : ตอนที่เราทำแผนกันทีมงานคิดละเอียดทุกเรื่องเพื่อไม่ให้คนที่ควรจะได้รับการช่วยเหลือตกหล่นไป เราได้วางรูปแบบไว้แล้วว่า แม้จะไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้ “เราชนะ” ได้ โดยจากผลสำรวจเรื่องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2562 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ว่าประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 56.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 89.6 ของประชากรที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน เข้าถึงอินเทอร์เน็ตค่อนข้างสูงคือร้อยละ 96.4

นอกจากนี้ กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ จะอยู่ในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน ซึ่งไม่ต้องลงทะเบียนเราชนะ แต่จะได้รับเงินโอนเข้าบัตรโดยตรง

คนที่อาจไม่มีบัตรสวัสดิการและไม่มีสมาร์ทโฟน จะต้องทำอย่างไร?

ตอบ : ได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนกลุ่มนี้ลงทะเบียนได้ ซึ่งได้รับการยืนยันมาแล้วว่าทำได้

ผู้ไม่มีบัตรสวัสดิการและไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เมื่อใด?

ตอบ : ได้วางรูปแบบให้มีเวลาลงทะเบียน 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม-12 กุมภาพันธ์ ดังนั้น คนที่มีสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ จะมีเวลาพอที่จะไปรับความช่วยเหลือในการลงทะเบียน

ทำไมไม่จ่ายเงินเข้าบัญชี แล้วให้ถอนเป็นเงินสดได้?

ตอบ : ขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 การสัมผัสธนบัตร จึงเป็นเหตุที่อาจทำให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ และเพื่อลดความแออัดของประชาชน ที่จะไปต่อคิวกดเงินสดออกจากตู้ ATM นอกจากนี้ ยังต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า และให้เงินหมุนเวียนอยู่ในชุมชน

ใช้จ่ายใดๆ ได้อีกบ้าง นอกจากซื้อสินค้า?

ตอบ : ครั้งนี้จะเปิดกว้างให้เป็นบริการทั่วไปได้ ซึ่งรวมถึงมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ และอื่นๆ อีกมาก คนที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็สามารถให้ผู้รับเงินเปิดแอปฯ ถุงเงิน เพื่อให้ใช้เงินในแอปฯ เป๋าตังจ่ายได้ หรือแม้แต่นำเงินสดที่ประหยัดได้จากการใช้วงเงินเราชนะ ที่นำไปใช้จ่ายในส่วนนั้นได้