(22 ม.ค.64) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประมาณ 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึง จีนและเกาหลีใต้ ที่อนุญาตให้พลเมือง ถือสัญชาติได้เพียงสัญชาติเดียว
ภายใต้กฎในปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการมีหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต อีกสัญชาติ จะถูกขอให้สละความเป็นพลเมืองญี่ปุ่น แต่ในปี พ.ศ. 2561 ประชาชน 8 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาล โดยระบุว่ากฎนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
หนึ่งในโจทก์คือ นายฮิโตชิ นางาวะ เผยต่อสื่อมวลชนว่า การถูกบังคับให้สละสัญชาติญี่ปุ่น ถือเป็นความ “ปวดร้าวทางจิตใจ” เขาได้รับสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากหน้าที่การงานบังคับ และเขามีความผูกพันทางใจในความเป็นญี่ปุ่น รากฐานในความเป็นตัวตนของเขา
โจทก์ 6 คนได้รับสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ หรือลิคเทนสไตน์ แล้ว ส่วนอีก 2 คนต้องการถืออีกสัญชาติ โดยไม่สูญเสียสัญชาติญี่ปุ่น ทั้ง 8 คนอ้างในคำฟ้องต่อศาลว่า กฎบังคับให้ถือสัญชาติเดียวของรัฐบาลญี่ปุ่น ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในข้อที่ว่าด้วย “สิทธิในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข” และการคุ้มครองความเท่าเทียมของบุคคล
เมื่อวันพฤหัสบดี ศาลแขวงโตเกียวมีคำสั่งยกฟ้อง และปฏิเสธคำร้องเรียกค่าเสียหาย จากโจทก์ทั้ง 8 คน โดยวินิจฉัยว่ากฎของรัฐบาลไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ในประเด็นที่เป็นคดีฟ้องร้องต่อศาล รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า การอนุญาตให้พลเมืองถือหลายสัญชาติ ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติแต่อย่างใด
ประเด็นนี้กลายเป็นที่สนใจของนานาชาติอีกครั้ง จากความโด่งดังของ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสสาววัย 23 ปี ซึ่งมีแม่เป็นชาวญี่ปุ่น พ่อชาวเฮติ แต่เติบโตในสหรัฐอเมริกา เธอถือ 2 สัญชาติ ญี่ปุ่น-อเมริกัน แต่ตามกฎหมายญี่ปุ่น ในทางเทคนิคเธอต้องเลือกถือเพียงสัญชาติเดียว เมื่ออายุครบ 22 ปี ซึ่งเธอตัดสินใจสละสัญชาติสหรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2562.
เครดิตภาพ – 247 News Around The World, AFP, REUTERS
เครดิตคลิป – Asian Boss
แหล่งข่าว https://www.dailynews.co.th/foreign/820592
