เรียกคนอื่นว่า อ้วน ไม่ได้ทำให้คุณผอมลง การเรียกคนอื่นว่า โง่ ก็ไม่ได้ทำให้คุณฉลาดขึ้นเช่นกัน
(Calling somebody else fat won’t make you any skinnier. Calling someone stupid doesn’t make you any smarter. And ruining Regina George’s life definitely didn’t make me any happier. All you can do in life is try to solve the problem in front of you.)
จากเรื่อง Mean Girls (2004)
ในยุคนี้ไม่ว่าคุณจะว่าคนอื่นเช่นไร ก็ไม่ได้ทำให้คุณดูดีไปกว่าเขา แต่ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้คุณยิ่งดูแย่ขึ้นไปอีกอย่างการที่คุณว่าคนอื่นว่าอ้วน แล้วมันทำให้คุณผอมลงไหม ว่าคนอื่นว่าขี้้เหร่ แล้วคุณสวยขึ้นไหม ว่าคนอื่นโง่ แล้วมันทำให้คุณฉลาดขึ้น ทำไมเราไม่เอาเวลาที่ไปว่าคนอื่นหันกลับมาจัดการปัญหาที่คุณมีอยู่มันจะดีกว่าไหม อย่าเอาเวลามาว่าคนอื่น หันกลับมาทำให้ตัวเองดูดีขึ้นเถอะ สิ่งที่คนเราทุกคนควรมีคือการให้เกียรติคนอื่นก็เหมือนให้เกียรติ เมื่อคุณไม่รู้จักการให้เกียรติคนอื่น คุณไม่มีวันเจริญไปกว่าเขา
“ลองก้าวออกมาจากโซนของตัวเองสิ รางวัลมันคุ้มค่าแน่นอน”
(Venture outside your comfort zone. The rewards are worth it.)
จากเรื่อง Tangled (2010)
การลองเสี่ยงออกจากคอมฟอร์ทโซน เริ่มก้าวออกมาทำอะไรใหม่ ๆ อาจจะทำให้คุณได้เจอกับคำตอบ เรื่อง หรือมุมมองที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้ แค่กล้าที่จะก้าวไปทำอะไรดี ๆ ผลลัพธ์ก็คุ้มค่าแล้ว
ถ้าคุณมั่วแต่อยู่แต่ในโลกของคุณ หรืออยู่แต่ในมุมมองเดิมๆของตัวเอง คุณจะไม่มีวันได้เจอสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม และเราอาจจะไม่ได้มองเห็นมุมมองที่แตกต่าง ทำไมคุณถึงไม่ลองก้าวข้ามผ่านโลกของคุณออกมาเจอโลกใหม่ บางที่มันอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้ ไม่แน่ผลตอบแทนมันอาจจะคุ้มค่ามากกว่าที่คุณคิดก็ได้ ถ้าคุณอยู่แต่ในโลกของตัวเอง คุณจะไม่ได้เจอสิ่งที่ดีกว่าเดิมก็ได้
“ฉันรู้แล้วล่ะว่าต้องทำอะไร ฉันจะมีลมหายใจต่อไป เพราะวันพรุ่งนี้ ก็ยังมีพระอาทิตย์ขึ้น ใครจะรู้ล่ะว่า คลื่นทะเลอาจนำอะไรดี ๆ มาให้”
(I know what I have to do now, I’ve got to keep breathing because tomorrow the sun will rise. Who knows what the tide could bring?)
จากเรื่อง Cast Away (2000)
การที่คุณมีชีวิตอยู่โดยที่มีจุดมุ่งหมายมันย่อมดีกว่าการมีชีวิตอยู่โดยไร้จุดมุ่งหมาย ถ้าเกิดคุณอยู่โดยไร้จุดมุ่งหมาย คุณก็จะใช้ชีวิตไปวันๆหนึ่ง ไม่กระตือรือรนที่จะทำอะไร แต่ถ้าคุณอยู่โดยมีจุดมุ่งหมายมันย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ เพราะตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ก็ยังมีพรุ่งนี้อยู่เสมอ จงทำทุกวันให้มีคุณค่าและตั้งเป้าหมายในทุกวัน อย่าปล่อยเวลาทิ้งไป โดยที่เราไม่ทำอะไรเลย
“สักวันหนึง คุณจะเรียนรู้ที่จะมองข้ามสิ่งที่คนอื่นเรียกคุณ แล้วจะหันมาเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองเป็นแทน”
(After a while, you learn to ignore the names people call you and just trust who you are.)
จากเรื่อง Shrek (2001)
มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง เพราะสิ่งนี้จะพาคุณไปสู่ความสุขและความสำเร็จ
คนทุกคนย่อมอยากประสบความสำเร็จเป็นเรื่องธรรมดา จะมีใครที่อยากล้มเหลวอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีคนว่าคุณ หรือคุณถูกดูถูกแค่ไหน จงเปลี่ยนคำเล่านั้นเป็นแรงผลักดันสิค่ะ จงเก็บคำพวกนั้นไว้ เพื่อผลักดันในตัวเองขึ้นมาให้ประสบความสำเร็จในชีวิต สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ คือ ความเชื่อมั่น และมั่นใจในตัวเอง จงเชื่อมั่นว่าคุณเองก็สามารถมีความสุขในคำดูถูกของคนอื่นได้ และในสักวันความเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณเป็นจะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ในสักวัน บางที่เราต้องแกล้งทำเป็นตาบอด หูหนวก เพื่อมองข้ามสิ่งที่คนอื่นพูดว่าคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเก็บคำพูดของคนอื่นมาคิดให้คุณเจ็บใจตัวเองเปล่าๆ
“เมื่อทำงานก็ทำให้ดีที่สุด แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด”
(Hope for the best but plan for the worst.)
จากเรื่อง Bourne Ultimatum (2007)
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน เมื่อเราทำงานก็ควรจะคาดหวังและทำออกมาให้ดีที่สุด แต่ก็อย่าลืมวางแผนสำรองเผื่อเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะได้ตั้งรับถูก
ความฝันสูงสุดของตัวเองคือการเรียนจบออกมาแล้วมีงานดีๆ ทำ ซึ่งเวลาทำงานคุณต้องตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุดเป็นธรรมดา และคุณแน่ใจได้ยังไงว่างานที่คุณทำจะดีพอให้เจ้านายถูกใจ จะดีกว่าไหม ถ้าคุณลองทำงานสำรองเผื่อเอาไว้ อย่าคาดหวังอะไรจากงานมากจนเกินไป เพราะเมื่อผิดหวัง งานไม่เป็นไปอย่างที่คิด คุณเองนั้นแหละที่จะเสียใจ ก็เหมือนคนที่อยู่ที่สูงเมื่อตกลงมา ไม่ตาย ก็พิการอย่างแน่นอน คุณลองเปลี่ยนวิธีในการทำงาน จากที่ทำงานแค่งานเดียว ลองมาทำงานสำรองเผื่อเอาไว้ หรือคิดวิธีแก้ไขงานเอาไว้ เผื่องานที่ทำเกิดมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้้น เราจะได้นำงานสำรองมาใช้แทน หรือจะได้แก้ไขงานได้ทันเวลา การรู้จักมีแผนสำรอง หรือการแก้ไขงานเฉพาะหน้าได้ดี นั้นคือคุณสมบัติของคนฉลาด
