“ทวิตเตอร์-เฟซบุ๊ก” บล็อกบัญชี “ทรัมป์” หลังม็อบบุกป่วนสภาคองเกรส

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

(7 ม.ค.64) ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก ตัดสินใจระงับบัญชีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการชั่วคราววานนี้ (6 ม.ค.) เพื่อยับยั้งการเผยแพร่ข้อกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้ง หลังม็อบที่สนับสนุนผู้นำสหรัฐฯ บุกเข้าไปก่อความวุ่นวายในอาคารรัฐสภาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จนมีผู้เสียชีวิต 1 คน

ทวิตเตอร์ได้ซ่อนข้อความ และลบบางทวีตของทรัมป์ออก “เนื่องจากเกิดสถานการณ์รุนแรงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.” หลังผู้ประท้วงหลายร้อยคนบุกเข้าไปในรัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้สภาคองเกรสประกาศรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และมีหญิงผู้สนับสนุนทรัมป์ คนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตท่ามกลางเหตุชุลมุน

เฟซบุ๊กได้ประกาศบล็อกบัญชี ทรัมป์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยอ้างว่ามีการละเมิดเงื่อนไขการใช้งาน 2 ข้อ ส่วนทวิตเตอร์ก็ได้ล็อกบัญชีของผู้นำสหรัฐฯ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง และย้ำว่าหากข้อความที่เป็นปัญหายังไม่ถูกลบทิ้ง ก็จะระงับการใช้งานต่อไปเรื่อยๆ และนั่นแปลว่า ทรัมป์ จะไม่สามารถสื่อสารผ่านบัญชี @realDonaldTrump ได้อีก

เฟซบุ๊กและยูทิวบ์ยังได้ลบคลิปวิดีโอที่ ทรัมป์ อ้างไม่เลิกว่ามีการทุจริตเลือกตั้งประธานาธิบดี แม้ในขณะที่ตนเองเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนที่ก่อความรุนแรง “กลับบ้าน” ก็ตาม

คลิปดังกล่าวยังถูกลบออกจาก “อินสตาแกรม” ซึ่งมีการแบนบัญชีของทรัมป์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเช่นกัน

กาย โรเซน รองประธานเฟซบุ๊ก ทวีตข้อความว่าทางบริษัทได้พิจารณาแล้วว่าคลิปวิดีโอของ ทรัมป์ “มีส่วนยุยงส่งเสริม มากกว่าที่จะบรรเทาความรุนแรง” และการลบคลิปดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “มาตรการฉุกเฉินที่เหมาะสม”

บริษัทด้านเทคโนโลยีต่างเผชิญแรงกดดันให้ต้องยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ บนแพลตฟอร์ม และเมื่อวานนี้ (6) ก็มีผู้ใช้งานจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้ระงับบัญชีของ ทรัมป์ เสีย

ทรัมป์ และพลพรรคยังคงพยายามแชร์ข้อความที่อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งผ่านสื่อออนไลน์ และเมื่อวานนี้ (6) ผู้นำสหรัฐฯ ยังทวีตตำหนิรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ว่า “ขาดความกล้าหาญ” ที่จะต่อสู้เรียกร้องในสิ่งที่เขาอ้าง

องค์กรด้านสิทธิพลเมือง The Anti-Defamation League และ Color of Change ออกมาเรียกร้องให้บริษัทสื่อต่างๆ แบนบัญชีของ ทรัมป์ เป็นการถาวร

นักวิจัยชี้ว่า ข้อความที่สนับสนุนความรุนแรงและคำแนะนำด้านการใช้อาวุธถูกแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ประท้วงหลายกลุ่มวางแผนออกมาชุมนุมในวันพุธ (6) ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์ทรัมป์, กลุ่มชาตินิยมคลั่งผิวขาว และขบวนการ QAnon ที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดขวาจัดว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังต่อสู้ทำสงครามอย่างลับๆ กับ “ดีปสเตท” (deep state)

ที่มา : รอยเตอร์
https://mgronline.com/around/detail/9640000001175