เอสซีจี เซรามิกส์ ประกาศผลประกอบการปี 2564 มีรายได้จากการขาย 11,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% กำไรโต 39% จากยอดขายในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น คาดเศรษฐกิจปี 2565 โต เตรียมปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเทคโนโลยีรับมือราคาพลังงาน พร้อมชู “Dream Space” สร้างแบรนด์ขึ้นเป็นผู้นำด้านสุขอนามัยบวกไลฟ์สไตล์
วันที่ 26 มกราคม 2565 นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ โสสุโก้ และคัมพานา เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/64 มีรายได้จากการขาย 2,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาส 4/63 และลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาส 3/64 มีกำไร 57 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 31 จากไตรมาส 4/63 และลดลงร้อยละ 65 จากไตรมาส 3/64 เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ผลประกอบการปี 2564 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 11,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 10 กำไรสุทธิรวม 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 164 ล้านบาท จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค
ในส่วนความต้องการสินค้ากระเบื้องเซรามิกในประเทศอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2563 เช่นเดียวกับการแข่งขันที่ยังคงรุนแรงทั้งจากผู้ผลิตในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยปี 2565 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม คือ เรื่องราคาพลังงานที่ปรับเพิ่ม 10% ในขณะที่ประเมินความต้องการใช้สินค้ากระเบื้องเซรามิกโดยรวมใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเชื่อว่าจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปีนี้จึงมองบวกในเรื่องของการฟื้นตัว คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรงไปกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยเน้นลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ควบคุมสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ปรับสัดส่วนการขายสินค้าไปยังตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับปรับการผลิตและการนำเข้าสินค้าให้สอดคล้องกับดีมานด์
บริษัทเน้นการสร้างแบรนด์ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคโควิดและภาวะโลกร้อน ซึ่งผู้บริโภคมีความต้องการสร้างพื้นที่ใหม่ในบ้าน หรือ Dream Space ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์และการใช้งานที่แตกต่างหลากหลายของสมาชิกภายในบ้านภายใต้วิถี New Normal
“เรามีสินค้าตอบโจทย์นี้ดผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง Hygienic Tile หรือกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรียจาก COTTO กระเบื้อง Air Ion หรือกระเบื้องฟอกอากาศดักจับฝุ่น PM2.5 89% แผ่นปูพื้น LT แบบ Smart Flexible วัสดุปูพื้นติดตั้งง่าย รวดเร็ว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกลยุทธ์สร้างการเติบโตระยะยาวโดยร่วมกับผู้แทนจำหน่าย ร้านค้า Modern trade ขยายสาขาของธุรกิจร้านค้าปลีกเปิดโชว์รูมคลังเซรามิกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”
เทรนด์ตลาดกระเบื้องปีเสือ มองว่าบ้านรีโนเวตคงจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งยุคโควิด 2 ปีที่ผ่านมาคนอยู่บ้านมากขึ้นและมีการปรับปรุงบ้าน ส่งผลบวกต่อตลาดเซรามิก แม้ว่าลูกค้าโครงการในกรุงเทพ ชะลอตัวลง แต่มีดีมานด์ในต่างจังหวัดได้เข้ามาชดเชย ในภาพรวมบริษัทน่าจะสร้างอัตราเติบโตยอดขายได้สูงกว่าตลาด กล่าวคือ ถ้าตลาดเติบโต 2% บริษัทน่าจะเติบโตได้ 5-6% อาทิ ปี 2564 มียอดขายผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ 500 ล้านบาท ปี 2565 คาดว่าเติบโต 25-30% เป็นต้น
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/property