“อย่าปล่อยให้ใครมาพูดกับลูกว่า นายทำไม่ได้หรอก แม้แต่ตัวพ่อเองเข้าใจไหม ความฝันของลูกลูกก็ต้องปกป้อง เพราะพวกเขาทำมันไม่ได้เขาเลยบอกลูกว่าทำไม่ได้ แต่ถ้าลูกต้องการสิ่งนั้นจริงๆก็ไปเอามันมาให้ได้เท่านั้นแหละ
Don’t ever let somebody tell you you can’t do something, not even me. Alright ? You dream ,you gotta protect it. People can’t do something themselves, they wanna tell you you can’t do it. If you want something, go get it. Period.”
จากหนังเรื่อง The Pursuit of Happiness (2006)
หลายครั้งที่เราหมดความเชื่อมั่นในตนเอง ภาพที่วาดฝันไว้กลับถูกขีดฆ่าด้วยคำพูดของใครบางคนเหล่านั้นที่แทบจะไม่รู้จักตัวเราดีด้วยซ้ำ เพียงแค่ภาพความฝันของเราตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นไปได้ บ่อยครั้งที่เราบอกเล่าความฝันของตัวเองให้ใครบางคนเหล่านั้นฟังแต่กลับมีเสียงตอบกลับมาด้วยเสียงหัวเราะ หรือคำพูดโห่ร้องว่า “เธอเนี้ยนะ” “อยากเป็นอย่างนั้นแล้วในอนาคตจะใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นได้หรอ” สร้างความบั่นทอนจิตใจและกำลังใจของเจ้าของความฝัน แต่อย่าได้เอาคำพูดเหล่านั้นกลับมาคิดหรือบั่นทอนกำลังใจของตัวเองเลย เพราะคำพูดไม่กี่คำซึ่งออกมาจากคนพวกนั้นเพียงแค่ผ่านมาและผ่านไปเท่านั้นนอกจากนั้นแล้วยังทำให้เห็นด้วยว่า เพราะคนเหล่านั้นเพียงแค่คอยเฝ้ามองตามความฝันของคนอื่นเมื่อเห็นว่าคนอื่นทำสำเร็จก็อยากจะเดินตามบ้าง กลับกันเราควรสงสารพวกเขาเหล่านั้นที่แม้แต่ความฝันของตัวเองก็อาจจะยังไม่มีอย่างแท้จริง เขาจึงดูถูกความฝันของคนอื่นได้ เพราะฉะนั้นแล้วอย่าปล่อยให้ใครมาดูถูกความฝันของเรา เราต้องปกป้องความฝันของตัวเองและเชื่อมั่นในความฝันนั้น
” เธอไม่สามารถอยู่เพื่อทำให้คนอื่นพอใจได้ตลอดเวลาหรอกนะ เพราะเธอก็มีทางของเธอ
You can not live your life to please others. the choice must be your. ”
จากหนังเรื่อง Alice in wonderland (2010)
แม้บางครั้งเรามีหน้าที่ซึ่งยังคงต้องทำอยู่ก็อย่าหลงลืมหรือหมดไฟกับความฝันของตัวเองล่ะ แม้ว่าความฝันของคุณนั้นจะยังไม่เคยปริปากบอกใคร หรือแม้ว่าคุณจะบอกไปแล้วแต่ได้ผลลัพธ์เป็นความเย็นชาโต้ตอบกลับมา แต่อย่าพึ่งหมดความเชื่อมั่นในตัวเอง พวกเขาเหล่านั้นอาจจะยินดีด้วยก็ต่อเมื่อคุณทำความฝันเป็นจริงเท่านั้น แม้ไร้ผู้คนรับฟังแต่ก็ยังมีตัวเองเป็นเพื่อนใจ แม้จะมีใครไม่เห็นด้วยกับความฝันของคุณคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามความฝันของคนอื่น ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินตามทางของใครหรือไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้คนส่วนใหญ่พอใจ เพราะคุณไม่สามารถอยู่เพื่อทำให้ใครพอใจได้หรอก เพราะสุดท้ายแล้วความสุขที่แท้จริงของคนเราก็คือ เราอยู่เพื่อความสุขของตัวเราเอง อยู่เพื่อความฝันของตัวเอง เพราะเส้นทางชีวิตของใครก็ของคนนั้นคงเทียบกันไม่ได้ ตราบใดที่ความฝันของเรายังคงไม่เหมือนกัน ก็คงจะเทียบกันไม่ได้ว่าความฝันของใครนั้นดีที่สุด
“เมื่อผ่านไปสักพัก คุณจะเลิกสนใจใครต่อใครที่คอยเรียกหาคุณ และคุณจะเชื่อมั่นในตัวคุณเอง
After a while, you learn to ignore the names people call you just trust who you are.”
จากหนังเรื่อง shrek (2001)
พอเวลาพัดผ่านล่วงเลยไปประสบการณ์ที่คุณได้เก็บเกี่ยวมาในชีวิตช่วงหนึ่งจะทำให้คุณรับมือกับสิ่งที่พบเจอได้ในอนาคตแม้ก่อนหน้านั้นคุณจะไม่มีวิธีรับมือกับคำพูดรุนแรงหรือคำพูดซึ่งทำลายความมั่นใจในความฝันของคุณเหล่านั้น กาลเวลาจะพัดผ่านคนเหล่านั้นออกจากชีวิตคุณไป กาลเวลาจะทำให้คุณเลิกสนใจคำพูดของคนอื่นที่ไม่ได้เห็นด้วยกับตัวคุณ และกาลเวลาจะทำให้คุณมีความเชื่อมั่นในความฝันและสิ่งที่ทำเพิ่มมากยิ่งขึ้น
“สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้ นี่แหละที่จะสร้างความแตกต่าง
It’s what you do right now that makes a difference”
จากหนังเรื่อง Back hawk down
หากมีใครกล่าวว่าคุณที่คุณไม่เหมือนใคร หากมีใครแนะนำคุณให้คุณทำตามพวกเขาเหล่านั้น เพราะเขาอาจจะเห็นว่าใครเหล่านั้นเคยทำความฝันของตัวเองประสบความสำเร็จ แล้วอยากให้คุณมีความฝันเฉกเช่นเดียวกับพวกเขา หากยังไม่มีใครการันตีความฝันของคุณได้ ก็อย่าหยุดความเชื่อมั่นแล้วทำตามความฝันของคนอื่นเขา คุณต้องพยายามเพื่อที่จะการันตีความฝันของตัวเองให้ได้คงไม่แปลกหรอกที่ระหว่างทางจะมีสิ่งฉุดรั้งมากมาย คงไม่แปลกหรอกที่สิ่งเหล่านั้นจะทำให้ความฝันของคุณเลื่อนลางไป แต่หากคุณมีความแนวแน่และความมั่นใจแล้ว ความฝันของคุณก็จะไม่หายไปอย่างแน่นอน และหากคุณทำตามความฝันที่แตกต่างจากใครเขาเหล่านั้นได้แล้วจนประสบความสำเร็จ นั้นแหละคือการการันตีความฝันของคุณแล้วและจะไม่มีใครมองว่าเป็นไปไม่ได้อีก
อย่าลืมที่จะปกป้องความฝันของตัวเองและเชื่อมั่นในความฝันนั้นอย่าให้ใครมาพรากความฝันของคุณไปจากคุณได้แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะฉุดรั้งคุณไว้แค่ไหนก็ตามแม้หนทางข้างหน้าจะลำบากยากเย็นมากแค่ไหนแต่เพื่อที่จะรักษาความฝันนั้นไว้ก็รักษามันไว้ให้ดีที่สุด
