“The biggest risk is not taking any risk. In a world that changing really quickly, the only strategy that is guaranteed to fail is not taking risks.”
“ ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ คือ การไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย และการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย คือความล้มเหลว ”
Mark Suckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook
ความเชื่อและค่านิยมเก่า ๆ ได้ปลูกฝังให้เราเป็นคนที่ต้องการความมั่นคงชีวิตมากกว่า การที่ต้องไปเสี่ยงอะไรต่าง ๆ มากมายที่เราไม่รู้จัก พ่อแม่ ครอบครัว สังคมต่างก็บอกให้เด็กนั้น จบมาให้มีงานทำ ไปเป็น หมอ ครู วิศวะ หรือพนักงานโรงงาน เพื่อจะได้ไม่ตกงาน มีเงินบำนาญใช้หลังเกษียณ มันเลยทำให้จิตสำนึกของเรานั่นไม่กล้าเสี่ยง
จากคำพูด Mark Suckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ว่า “ ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ คือ การไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย และการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย คือความล้มเหลว ” ต่างก็บอกว่าแล้วถ้าชีวิตมันล้มเหลวล่ะ ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จล่ะ ฉันก็ไม่ได้เก่งเท่าเขาหนิ เขารวยเขาก็พูดได้ เมื่อคุณมีความคิดลบ ๆ ให้กับตัวเองแบบนี้ คือคุณล้มเหลวตั้งแต่ไม่ทันเริ่มแล้วครับ ลองคิดกลับกันสิว่า ถ้าเรายอมออกจากกรอบความคิดของเรามา แล้วคิดใหม่ว่า ถ้าฉันทำสำเร็จล่ะ ฉันจะได้อะไรกลับมา แค่เราคิดอย่างผู้ชนะก็เท่ากับว่าเราสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ผมจะขอยกตัวอย่างคนที่เริ่มจากศูนย์แล้วประสบความสำเร็จนะครับ
1.โอปราห์ วินฟรีย์ ในตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น เขาได้รับความลำบากมากมาย เธอเกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน พร้อมกับปัญหาในครอบครัวต่าง ๆ มากมาย โอปราห์ วินฟรีย์ นั้นอยากจะเป็นนักข่าว แต่อุปสรรคเหล่านี้บวกคำดูถูกว่าเธอตัวดำทำไม่ได้หรอก และท้ายที่สุดเธอก็ได้เป็นสื่อนักข่าว อเมริกันคนแรก ด้วยอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น
2.บิล เกตส์ เขาเป็นบุคคลที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือและตัวเลขเป็นอย่างมาก และเขาอยากจะสร้างทุกคนมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง แต่ทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก และสุดท้ายเขาก็ได้ลบคำสบประมาทและได้กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
- Jeff Bezos เจ้าของบริษัท Amazon เขาเคยเป็นพนักงานกินเงินเดือนมาก่อน ตอนเขาเปิดบริษัทครั้งแรกพนักงานมีเพียงคนเดียวคือเขาเอง และมีป้ายบริษัทที่เขาเขียนด้วยมือตัวเอง ท้ายที่สุดเขาก็ได้เป็นที่รู้จักทั่วโลก และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 2020
ยังมีอีกมากมาย กับผู้คนที่ประสบความสำเร็จโดยเริ่มจาก 0 เห็นรึยังครับ หลายคนก็โดนคำสบประมาทและคำดูถูกกันทั้งนั้น เมื่อไม่กล้าคิดที่จะเสี่ยง ชีวิตและโลกก็ไม่เป็นไปมากขนาดนี้ แล้วคุณละครับเอาชนะคำสบประมาทของคนอื่นและตนเองได้หรือยัง เมื่อทำได้แล้วออกไปเถอะครับ ไปเจอกับความเสี่ยงฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อแลกกับความฝันที่เราต้องการ
“ ถ้าคุณกำลังพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในหลุม จงหยุดขุดต่อ ”
จากคำพูดของนักลงทุนในตำนานอย่าง ปู่วอเรน บัฟเฟต
เมื่อคุณกำลังทำธุรกิจอยู่ คุณต้องรู้ว่าตัวเองกำลังสู้อยู่หรือหรือกำลังดันทุลัง มีคนหลายลงมือทำธุรกิจด้วยความเชื่อว่าจะทำได้ด้วยไม่ได้มองโลกแห่งความเป็นจริงเลย หลายคนทำธุรกิจไปแบบไม่มีเข็มทิศ และสุดท้ายก็ พบว่าตัวเองนั้นหลงทาง ลองคิดตามผมนะครับ เมื่อคุณเจอเหตุการณ์หลงป่าคุณจะทำไงครับ ถ้าเป็นผม ผมจะย้อนกลับไปจากทางที่เดินมาสู่จุดเริ่มต้นเพื่อที่จะไปหาเส้นทางใหม่ที่ใช่กว่า แต่หลายคนมักไม่เป็นแบบนั้น เพราะว่าจะเดินไปเรื่อย ๆ จนสุดป่าแล้วจะเจอทางออก แต่มันก็ทำไม่ได้ทุกครั้ง เพราะเราอาจจะวนเวียนอยู่ บนป่าอย่างไม่รู้จบอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้นทางที่ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด ผมคิดว่าย้อนกลับที่จุดเริ่มต้นดีกว่าครับ
สำหรับการทำธุรกิจอยู่ก็เช่นกัน ผมคิดว่าการทำธุรกิจก็เหมือนการขุดทอง เมื่อคุณลงมือทำโดยไม่หาข้อมูลมาดีๆ ก็เหมือนการขุดทองที่ไม่มีทอง คุณจะขุดไปเรื่อยๆ จนจะเจอทอง แต่ความจริงแล้วตรงที่คุณขุด ทองมัน ไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ถ้าคุณศึกษามาดีๆ ว่าพื้นที่นี้มีแต่ทอง คนทั่วไปอาจจะใช้พลั่วขุด แต่คุณใช้เครื่องทุ่นแรงมา ขุดแทนคุณได้และยังได้ผลตอบแทนมากกว่าอีก
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ในการเริ่มต้นธุรกิจเราควรวางแผน ตั้งเป้าหมาย ไปเรียนรู้ มีที่ปรึกษาหรือคนรู้จักที่สำเร็จในทางนี้ และสุดท้ายคุณก็จะสำเร็จในธุรกิจของคุณไม่ ช้าก็เร็ว
“ การลงทุนที่ดีคือการลงทุนในตัวเอง ”
คำพูดของ ปู่วอเรน บัฟเฟต นักลงทุนระดับตำนาน
มีหลายคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่ตัวเองอยากได้ เช่น รถหรู บ้านราคาสูง เสื้อผ้ากระเป๋าแบรนด์ดัง และมีหลายคนที่ยอมจ่ายเงินในราคาแพงๆ เพื่อที่จะกินอาหารที่ตัวเองอยากกิน แต่มีน้อยคนนักที่จะยอมจ่ายเงินเพื่อการศึกษาในตัวเอง
การศึกษาในที่นี้ไม่ใช่ว่าต้องเรียนมหาวิทยาลัย หรือการศึกษาในระบบเท่านั้นนะครับ การศึกษาในที่นี้ของผมคือถ้าคุณอยากเป็นนักธุรกิจ คือต้องเรียนการตลาด ทักษะหลาย ๆ อย่าง และนำตัวเองไปพบกับผู้คนเพื่อจะได้สิ่งที่ตัวเองอยากเป็นมา ผมเห็นด้วยกับปู่วอเรน บัฟเฟตเพราะการศึกษาจะนำพาสิ่งใหม่ๆ มาให้เราเสมอ ไม่ใช่ว่าแค่ศึกษาเท่านั้นนครับ ต้องลงมือทำอย่างจริงจังด้วยจึงจะสำเร็จ
สุดท้ายนี้จากคำที่ว่า “ การลงทุนที่ดีคือการลงทุนในตัวเอง ” เป็นการพัฒนาตัวเองเพื่อพาตัวเองไปชีวิตที่ดีกว่า รู้แล้วลงมือทำ เมื่อเจอปัญหาจงปรับปรุงและแก้ไข จงทำไว้ว่าไม่มีอะไรที่เราทำไมได้ ถ้าเราอยากจะทำ